อาเซียนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในช่วงแปดเดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างจีนและอาเซียนยังคงเติบโต โดยแตะที่ 627.58 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบปีต่อปีการส่งออกของจีนไปยังอาเซียนสูงถึง 364.08 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีการนำเข้าของจีนจากอาเซียนมีมูลค่า 263.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงแปดเดือนแรก การค้าจีน-อาเซียนคิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าการค้าต่างประเทศทั้งหมดของจีน เทียบกับร้อยละ 14.5 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าเมื่อ RCEP ยังคงประกาศจ่ายเงินปันผลตามนโยบาย จะมีโอกาสและแรงผลักดันมากขึ้นสำหรับจีนและอาเซียนในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างรอบด้าน

ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าสินค้าเกษตรระหว่างจีนและอาเซียนจึงขยายตัวสถิติจากต่างประเทศแสดงให้เห็นว่าในช่วง 7 เดือนแรก เวียดนามส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังจีนประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบปีต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไทยส่งออกผลไม้สดไปจีน 1.124 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบปีต่อปีและการค้าเกษตรที่หลากหลายก็ขยายออกไปด้วยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เสาวรสและทุเรียนของเวียดนามได้รับการระบุในรายการนำเข้าของจีน

เครื่องจักรและอุปกรณ์ได้กลายเป็นจุดร้อนในการเจริญเติบโตของการค้าระหว่างจีนและอาเซียนด้วยการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจอาเซียน ความต้องการเครื่องจักรและอุปกรณ์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องกลและไฟฟ้าของจีนติดอันดับ 1 ในบรรดาสินค้านำเข้าที่คล้ายกันจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

สิ่งที่น่าสังเกตคือการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรี เช่น RCEP ได้ส่งแรงกระตุ้นที่แข็งแกร่งมาสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-อาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่กว้างไกลและศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดสำหรับการค้าทวิภาคีทั้งจีนและประเทศในอาเซียนต่างก็เป็นสมาชิกสำคัญของ RCEP ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกCafta ได้รับการยอมรับว่าเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ของเรา และเวทีเหล่านี้สามารถทุ่มเทให้กับการสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียนเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน