“อัตราดอกเบี้ยจะสูงเพียงใดขึ้นอยู่กับข้อมูล” ลาการ์ดกล่าว“เราจะพิจารณาข้อมูลทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนแรงงาน และการคาดการณ์ ที่เราจะใช้กำหนดเส้นทางนโยบายการเงินของธนาคารกลาง”
นางลาการ์ดย้ำว่าการนำอัตราเงินเฟ้อกลับไปสู่เป้าหมายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อเศรษฐกิจ และข่าวดีก็คืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปกำลังถดถอยในกลุ่มประเทศยุโรป และเธอไม่ได้คาดหวังว่าประเทศในยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
และข้อมูลล่าสุดจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนทำได้ดีเกินคาดเศรษฐกิจยูโรโซนมีการเติบโตในเชิงบวกเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งช่วยลดความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภูมิภาค
ด้านอัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงเหลือ 8.5% ในเดือนมกราคมจาก 9.2% ในเดือนธันวาคมแม้ว่าผลสำรวจบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงลดลง แต่คาดว่าจะไม่บรรลุเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ของ ECB จนกว่าจะถึงปี 2568 เป็นอย่างน้อย
สำหรับตอนนี้ เจ้าหน้าที่ ECB ส่วนใหญ่ยังคงหัวเสียอิซาเบล ชนาเบล สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ECB กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะเอาชนะอัตราเงินเฟ้อ และจะต้องมีอีกมากเพื่อนำกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม
Joachim Nagel หัวหน้าธนาคารกลางเยอรมนี เตือนไม่ให้ประเมินความท้าทายด้านเงินเฟ้อของยูโรโซนต่ำเกินไป และกล่าวว่าจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้รุนแรงกว่านี้“หากเราผ่อนปรนเร็วเกินไป มีความเสี่ยงอย่างมากที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในความเห็นของฉัน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความจำเป็นมากขึ้น”
Olli Rehn ผู้บริหารสภา ECB กล่าวว่าแรงกดดันด้านราคาพื้นฐานเริ่มแสดงสัญญาณของเสถียรภาพ แต่เขาเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังสูงเกินไป และจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับไปสู่เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ของธนาคาร
เมื่อต้นเดือนนี้ ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 เบสิพอยต์ตามที่คาดการณ์ไว้ และระบุชัดเจนว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 50 เบสิกพอยต์ในเดือนหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่สูง